ตามที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่อง ประกาศกรมราชทัณฑ์ กำหนดให้ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกครั้งแรกและโทษไม่เกิน 4 ปี สามารถคุมขังที่บ้านได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากที่มีข้อมูลระบุถึงประกาศของกรมราชทัณฑ์ ที่กำหนดให้ผู้ที่ได้รับโทษจำคุกครั้งแรกและโทษไม่เกิน 4 ปี สามารถคุมขังที่บ้านได้ โดยจะต้องมีอุปกรณ์ติดตามตัว และติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ทางกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ ได้ออกประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง กำหนดการรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขัง พ.ศ. 2566 เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติและกฎกระทรวงดังกล่าว พร้อมให้ได้ข้อมูลอย่างรอบด้าน ตลอดจนเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเพื่อรวบรวมความคิดเห็นไปประกอบการพิจารณาในกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
โดยประกาศรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อร่างประกาศกำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ดังกล่าว อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งการออกกฎหมายทุกฉบับ กรมราชทัณฑ์ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่สามารถออกกฎหมายเอื้อประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้
ทั้งนี้ ผู้ที่ศาลพิพากษาให้จำคุกจะต้องถูกขังในเรือนจำทุกรายและสถานที่คุมขังจะเป็นไปตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนด มิใช่ต้องโทษไม่เกิน 4 ปี แล้วจะได้รับการพิจารณาให้อยู่ที่บ้าน
ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม สามารถติดตามได้ที่ www.correct.go.th หรือ โทร. 02-967-2222
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ อยู่ระหว่างประกาศรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าว ซึ่งมีหลักการคือผู้ที่ศาลพิพากษาให้จำคุกจะต้องถูกขังในเรือนจำทุกราย และสถานที่คุมขังจะเป็นไปตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนด ไม่ใช่ต้องโทษไม่เกิน 4 ปี แล้วจะได้รับการพิจารณาให้อยู่ที่บ้าน