ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นเรื่อง ตลับทางด่วน Easy Pass หากแกะใส่ถ่านเองหรือทำชำรุด ต้องเสียค่าอุปกรณ์ใหม่ 800 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีที่มีการโพสต์ให้ข้อมูลระบุว่า ท่านที่ใช้ตลับทางด่วน Easy Pass เมื่อถ่านหมด (ประมาณ 3-4 ปี) ห้ามแกะใส่ถ่านเอง เอาไปเปลี่ยนตัวใหม่ได้ฟรีที่ด่านทางด่วนทุกแห่ง ถ้าแกะจะเสียหาย และต้องจ่ายค่าตัวใหม่ 800 บาทนั้น ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคมได้ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
ตัวอุปกรณ์ Easy Pass มีแบตเตอรี่อายุการใช้งานประมาณ 7 ปี หรือใช้งานได้ประมาณ 14,000 เที่ยว ไม่ใช่มีอายุ 3-4 ปี ตามที่โพสต์ดังกล่าวอ้าง ซึ่งหากอุปกรณ์ถึงคราวแบตเตอรี่หมดอายุ สามารถติดต่อขอเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ที่อาคารด่านหรือศูนย์บริการฯ ของ กทพ. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ อุปกรณ์จะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากอุปกรณ์มีรอยงัดแงะ/แตกหัก/ชำรุด/สูญหาย ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการออกอุปกรณ์ทดแทน ตามเงื่อนไขข้อตกลงการใช้บัตร Easy Pass (ตัวเครื่อง Easy Pass จำนวน 300 บาท บัตร Smart Card 30 บาท) ดังนั้น ตามข้อมูลที่อ้างถึงใน Facebook ที่จะต้องจ่ายค่าตัวใหม่ 800 บาท จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.exat.co.th หรือโทร. EXAT Call Center 1543
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : หากอุปกรณ์ Easy Pass ถ่านหมดสามารถติดต่อขอเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ที่อาคารด่านหรือศูนย์บริการฯ ของ กทพ. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากอุปกรณ์มีรอยงัดแงะ/แตกหัก/ชำรุด/สูญหาย ผู้ใช้บริการจะต้องชำระเงินค่าตัวเครื่อง Easy Pass ใหม่ 300 บาท บัตร Smart Card 30 บาท ไม่ใช่ 800 บาท ตามที่โพสต์ดังกล่าวระบุ
