ตามที่มีโพสต์เกี่ยวกับเรื่อง ป.ป.ง. อายัดทรัพย์แก๊งคนร้าย และเปิดคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ผ่านเพจ ข่าว ตำรวจ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีที่มีข่าวสารในสื่อออนไลน์ระบุว่า ป.ป.ง. อายัดทรัพย์แก๊งคนร้าย และเปิดคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ผ่านเพจ ข่าว ตำรวจ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจดังกล่าวไม่ใช่เพจของสำนักงาน ปปง. ซึ่งสำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการเปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายจากการกระทำความผิดมูลฐาน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รายคดี กลุ่มบุคคลใช้บัญชีธนาคารฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ชื่อบัญชีนายสิทธิพันธ์ ธิมาทาน และนางสาวศรินรัตน์ โฆษิตธัญพัฒน์กับพวก ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน-15 กันยายน 2567 ไม่ได้เปิดรับคำร้องฯ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ตามที่เพจดังกล่าวอ้าง
สำหรับกรณีการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายฯ ของสำนักงาน ปปง.
1. ผู้ยื่นคำร้องต้องมีสถานะเป็นผู้เสียหายในความผิดมูลฐานที่ระบุจึงจะมีสิทธิยื่นคำร้อง เมื่อสำนักงาน ปปง. ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและในเว็บไซต์ของสำนักงาน ปปง. เพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายมายื่นคำร้องแล้ว
2. ผู้ยื่นคำร้องต้องพิจารณาว่า พฤติการณ์กระทำความผิดมูลฐานตามที่ระบุไว้ในประกาศของสำนักงาน ปปง. นั้นตรงกับข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายหรือไม่ โดยพิจารณาจาก
2.1 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ระบุไว้ในประกาศฯ
2.2 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับช่วงเวลาที่มีการกระทำผิดที่ระบุไว้ในประกาศฯ
2.3 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเลขคดีอาญารับคำร้องทุกข์ของพนักงานสอบสวนที่ระบุไว้ในประกาศฯ
2.4 ในคดี Call Center มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชื่อบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารที่ระบุไว้ในประกาศฯ ต้องตรงกับชื่อบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไป หรือไม่ (ตรวจสอบได้จากสลิปการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือสอบถามจากธนาคารที่ผู้เสียหายเปิดบัญชีไว้ ฯลฯ)
ทั้งนี้ หากข้อเท็จจริงของผู้เสียหายตรงกับข้อเท็จจริงที่ระบุไว้ในประกาศของสำนักงาน ปปง. แล้วย่อมถือว่า เป็นผู้เสียหายที่มีสิทธิยื่นคำร้องเพื่อขอรับการคุ้มครองสิทธิได้ แต่หากข้อมูลไม่ตรงกับประกาศแล้ว ย่อมไม่มีฐานะเป็นผู้เสียหายที่จะมีสิทธิยื่นคำร้องในคดีนั้นได้
อย่างไรก็ตาม ปปง. ไม่ได้กำหนดให้ยื่นเอกสารทางอีเมลแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ได้มีการเปิดรับคำร้องฯ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง
ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ https://www.amlo.go.th/index.php/th/ หรือ โทร. 02-219-3600
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เพจดังกล่าวไม่ใช่เพจของสำนักงาน ปปง. และไม่ได้กำหนดให้ยื่นเอกสารทางอีเมล และไม่ได้มีการเปิดรับคำร้องฯ หรือให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดีทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง