จำนวนผู้เข้าชม 29,247,435

อนุมัติการรับรองวัดคาทอลิกเพิ่มอีก 56 แห่ง จริงหรือ?

จากที่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องอนุมัติการรับรองวัดคาทอลิกเพิ่มอีก 56 แห่ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

ครม. มีมติเห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก เป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 จำนวน 56 แห่ง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ซึ่งวัดคาทอลิกที่ได้รับการรับรองครั้งนี้ได้ผ่านการพิจารณาคำขอจากคณะกรรมการกลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67 ซึ่งที่ผ่านมา ครม. มีมติให้การรับรองไปแล้ว จำนวน 245 แห่ง ทำให้มีวัดคาทอลิกที่ได้รับการรับรองตามระเบียบฯ รวมแล้วมีทั้งสิ้น 301 แห่ง

ทั้งนี้ วัดคาทอลิกที่ได้รับการรับรองครั้งนี้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ได้แก่
1. ได้รับความเห็นชอบให้ยื่นคำขอรับรองจากสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย
2. มีข้อมูลที่ตั้งวัด
3. มีข้อมูลที่ดินที่ตั้งวัดและการอนุญาตให้ใช้ที่ดิน
4. มีรายชื่อบาทหลวงซึ่งจะไปประกอบศาสนกิจประจำวัด
5. มีข้อมูลอื่นที่จำเป็นเกี่ยวกับการรับรองวัดคาทอลิก เช่น มีใบอนุญาตหรือใบรับรองการก่อสร้างอาคารหรือเอกสารรับรองความมั่นคงแข็งแรงของอาคารวัด/ มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เอื้อต่อการประกอบศาสนกิจและมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการประกอบศาสนพิธี รวมทั้งได้รับการอุปถัมภ์และทำนุบำรุงจากคริสต์ศาสนิกชนและทุกภาคส่วนอย่างสม่ำเสมอ

โดยวัดคาทอลิกที่ได้รับการรับรองทั้ง 56 แห่ง อยู่ใน 18 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 10 แห่ง สกลนคร 7 แห่ง แม่ฮ่องสอน 6 แห่ง สุราษฎร์ธานี 5 แห่ง นครปฐม และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 4 แห่ง นครศรีธรรมราช หนองคาย และมุกดาหาร จังหวัดละ 3 แห่ง เชียงใหม่ และขอนแก่น จังหวัดละ 2 แห่ง อ่างทอง ราชบุรี ระนอง พังงา กระบี่ อุดรธานีและนครพนม จังหวัดละ 1 แห่ง

สำหรับการจัดตั้งวัดคาทอลิกซึ่งเป็นการดำเนินงานที่แยกจากการรับรองวัดคาทอลิก เนื่องจากเป็นการจัดตั้งวัดคาทอลิกขึ้นใหม่นั้น กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาได้จัดทำระบบยื่นคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-service) เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ มิซซังสามารถยื่นขอจัดตั้งวัดคาทอลิกได้ทาง catholic.softwarewellion.com/

รับรองวัดคาทอลิก

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด