ตามที่มีผู้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสีผิวของใบหน้า บ่งบอกอาการป่วย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
กรณีที่มีผู้ส่งต่อข้อมูลที่ระบุว่า สีผิวของใบหน้า บ่งบอกอาการป่วย ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ความผิดปกติของสีผิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากสาเหตุความผิดปกติภายในร่างกายหรือจากสาเหตุภายนอกร่างกาย รวมถึงการได้รับสารเคมีหรือยาบางชนิด ตัวอย่างเช่น
สีผิวที่ดำคล้ำขึ้นไม่ได้เกิดจากสาเหตุโรคไตเสื่อมเพียงอย่างเดียว อาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนต่อมหมวกไต การติดเชื้อบางชนิด การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาต้านมาลาเรีย ยาลดความดัน ยากดภูมิคุ้มกันบางชนิด ซึ่งจำเป็นต้องซักประวัติตรวจร่างกายตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม
ผิวที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจเกิดจากการรับประทานผักผลไม้ที่มีสารแคโรทีนผสมอยู่มากอย่างต่อเนื่อง เช่น มะละกอ มะเขือเทศ ซึ่งไม่ได้เป็นอันตราย แต่ถ้ามีตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองด้วย อาจเกิดจากสาเหตุตับอักเสบ ทางเดินน้ำดีอุดตัน ซึ่งจำเป็นต้องรีบปรึกษาแพทย์
ผิวที่ขาวซีดขึ้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ขึ้นกับลักษณะความขาว การกระจายตัวของเม็ดสี ตำแหน่งที่มีสีผิวปกติเป็นแบบเฉพาะจุดหรือทั่วร่างกาย โรคที่ทำให้เกิดสีผิวขาวผิดปกติ เช่น โรคด่างขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ผิวหนังชนิดรอยขาว (hypopigmented mycosis fungoides) โรคที่ทำให้เห็นผิวซีดขาวกว่าปกติอื่น ๆ เช่น โรคโลหิตจาง
ทั้งนี้ ความผิดปกติของสีผิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่สามารถระบุเฉพาะเจาะจงได้ ว่าเกิดจากอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งที่บกพร่องเป็นสาเหตุเพียงอย่างเดียวของการเกิดสีผิวที่ผิดปกติ จำเป็นต้องได้รับการซักประวัติตรวจร่างกายหรือตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมโดยแพทย์ การสังเกตพบความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของร่างกาย ควรรีบพบแพทย์แต่ไม่ควรวิตกกังวลหรือสรุปการวินิจฉัยด้วยตนเองไปก่อน
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ https://www.iod.go.th/ หรือโทร 02 5906000
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ความผิดปกติของสีผิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่สามารถระบุเฉพาะเจาะจงได้จำเป็นต้องได้รับการซักประวัติตรวจร่างกายหรือตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมโดยแพทย์ ไม่ควรวิตกกังวลหรือสรุปการวินิจฉัยด้วยตนเองไปก่อน
