ตามที่มีการนำเสนอข่าวประเด็นเรื่อง สปสช.แจกยาเม็ดคุมกำเนิด และถุงยางอนามัย ฟรี ทางศูนย์ต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
นายแพทย์จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงแนวทางการให้บริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทานและถุงยางอนามัย ปีงบประมาณ 2565 ว่า บริการดังกล่าวเป็นสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
ซึ่งในปีนี้ สปสช. ได้เพิ่มจุดให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการมากขึ้น โดยจะทำให้การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และเพิ่มความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย (Safe sex)
โดยจุดให้บริการ คือ หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย คลินิกการพยาบาลฯ ร้านขายยา โรงพยาบาลเอกชน คลินิกเวชกรรม และหน่วยบริการปฐมภูมิ
ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะให้บริการสำหรับหญิงไทยทุกสิทธิ อายุระหว่าง 15-59 ปี โดย ผู้รับบริการสามารถรับบริการยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ครั้งละไม่เกิน 3 แผง คนละไม่เกิน 13 แผง/ปี โดยรับบริการได้ 2 วิธี คือ
- กรณีมีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน สามารถขอรับยาคุมกำเนิด ในแอปเป๋าตัง > เมนูกระเป๋าสุขภาพ > เลือกบริการสร้างเสริมสุขภาพ > เลือกหน่วยบริการที่จะไปรับ > จองสิทธิ และไปรับภายในวันที่จองสิทธิ
- กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน ให้แสดงบัตรประชาชนเพื่อขอรับยาคุมกำเนิด ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
ส่วนถุงยางอนามัย จะให้บริการแก่คนไทยทุกสิทธิอายุ 15 ปีขึ้นไป รับบริการได้ครั้งละ 10 ชิ้น/สัปดาห์ รอบการจ่าย 7 วัน รับได้ 1 ครั้ง ไม่จำกัดจำนวนถุงยาง/คน/ปี โดยรับบริการได้ 1 วิธี คือ
- ใช้สมาร์ทโฟน Add Line สปสช. แล้วสแกน QR code ณ หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการแจกถุงยางอนามัย (ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช.) เพื่อรับถุงยางอนามัยตามไซส์ มีให้เลือก 4 ไซส์ คือ 49 มม., 52 มม., 54 มม. และ 56 มม.
อย่างไรก็ตามการให้บริการยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 65 นี้เป็นต้นไป ส่วนถุงยางอนามัยจะเริ่มให้บริการในช่วงเดือนเม.ย. 65
ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือโทรสายด่วนที่ 1330