จำนวนผู้เข้าชม 29,056,568

เตรียมผลักดัน Soft Power 1 ครอบครัว 1 Soft Power จริงหรือ?

จากที่มีการกระจายข่าวสารในสื่อต่าง ๆ ถึงเรื่องเตรียมผลักดัน Soft Power 1 ครอบครัว 1 Soft Power ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

เปิดมิติใหม่การบริหารงานกระทรวงวัฒนธรรม ชูวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตั้งเป้าการทำงานให้ประเทศไทยมี “หนึ่งภาค หนึ่งมรดกโลก” สร้างสรรค์ประเพณีลอยกระทงเป็น World Event ให้ดังลั่นโลก เหมือนงาน “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์” พร้อมส่งเสริมผ้าไทยเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง เพื่อไปสู่ระดับสากล จะเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ เชิงยุทธศาสตร์ เพื่อมุ่งเป้ายกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพของการเป็นกระทรวงที่นำวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มาใช้เป็นบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย โดยส่งเสริมให้ทุกคนร่วมกันนำวัฒนธรรมไทยมาสืบสาน รักษา และต่อยอดไปสู่มิติใหม่ ๆ ให้เกิดการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศไทย จะมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนา “คน สังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และ Soft Power” ควบคู่กันไป

ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมมีศักยภาพในการส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรม เพื่อสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากและอุตสาหกรรมวัฒนธรรมให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก เช่น การส่งเสริมอัตลักษณ์ของผ้าไทย ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง ประเภท luxury หรือกลุ่มลูกค้าประเภท elite เพื่อนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยของผ้าไทยไปเติบโตในระดับสากล รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาเครื่องประดับของไทยโดยนำลวดลายหรืออัตลักษณ์ของความเป็นไทยมาพัฒนาเพื่อก่อให้เกิดเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง

โดยให้มีการส่งเสริมผ้าไทยที่มีอัตลักษณ์ในแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ จากผลิตภัณฑ์และสินค้าทางวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนนโยบาย One Family One Soft Power (OFOS) หรือ นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ของรัฐบาลที่กำลังขับเคลื่อน โดยการเฟ้นหาศักยภาพของคนไทยทุกครอบครัว อย่างน้อยครอบครัวละหนึ่งคนเพื่อนำมาส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพเพื่อสร้างแรงงานทักษะสูงที่มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี

1 ครอบครัว 1 Soft Power

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด