จำนวนผู้เข้าชม 29,286,732

รัฐฯ เชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ผ่านเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th จริงหรือ?

จากข้อมูลที่ปรากฏบนสื่อออนไลน์เรื่องรัฐฯ เชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ผ่านเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

รัฐบาลเชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ e-Form  ทางเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th โดยทำการลงทะเบียนและกรอกข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ จากนั้นรอการตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประมาณ 5 วันทำการ จึงจะสามารถดำเนินการการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ รวมถึงสามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านแอปพลิเคชัน Farmbook ได้ทั้งระบบ iOS และ Android

ในปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการเพิ่มช่องทางการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-Form เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกร และตอบโจทย์ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติงาน ทำให้ในปัจจุบันเกษตรกรทุกรายที่เพาะปลูกหรือประกอบกิจกรรมทางการเกษตร เช่น ปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ปลูกพืชแบบสวนผสม ทำนาเกลือสมุทร และเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ 2 ทาง คือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ และดำเนินการด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์

สำหรับผู้ที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับเจ้าหน้าที่ ต้องยื่นแบบ ทบก.01 พร้อมด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และสำเนาหลักฐานถือครองที่ดิน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือจุดนัดหมายที่สำนักงานเกษตรอำเภอนั้น ๆ กำหนด หรือผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) 

ดังนั้นเกษตรกรสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน หากเป็นไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ให้แจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้เมื่อทำการเพาะปลูกแล้ว 30 วัน และปรับปรุงข้อมูลทุกปีให้เป็นปัจจุบัน สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่มีเนื้อที่การเพาะปลูกขั้นต่ำแต่ละชนิดไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ โดยเกษตรกรต้องยืนยันว่า มีรายได้ที่คาดว่า จะได้รับจากการประกอบการเกษตรตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนดังกล่าวในรอบปีเพาะปลูกนั้น ๆ เกิน 8,000 บาท ขึ้นไป 

website 2712

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th หรือ โทร. 02-618-2323

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด