จำนวนผู้เข้าชม 29,248,313

กฟผ. เพิ่มโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน รองรับความต้องการไฟฟ้าสีเขียวของภาคธุรกิจ จริงหรือ?

ตามที่มีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกฟผ. เพิ่มโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน รองรับความต้องการไฟฟ้าสีเขียวของภาคธุรกิจ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงพลังงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด 19 ทำให้คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบ กฟผ. ปี 2566 อยู่ที่ 208,187 ล้านหน่วย (GWh) เพิ่มขึ้น 3.32% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเทรนด์พลังงานโลกรวมถึงประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและการลงทุนมากขึ้นเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าจากมาตรการภาษีคาร์บอน ในปี 2566 กฟผ. จึงเร่งเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ชุดที่ 1 กำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ ที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (BESS) เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในช่วงเปลี่ยนผ่านพลังงานระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานน้ำ รวมทั้งเพิ่มความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ

ทั้งนี้ กฟผ. มีศักยภาพดำเนินโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อนสูงถึง 10,000 เมกะวัตต์ โดยเตรียมเสนอโครงการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าสีเขียวของภาคธุรกิจ ควบคู่กับการเดินหน้าส่งเสริมใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) เพื่อยืนยันการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียวตามมาตรฐานสากล โดย กฟผ. ได้รับสิทธิ์จาก I-REC ประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้เป็นผู้รับรอง (Local Issuer) รายเดียวของประเทศไทย ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กฟผ. ออกใบรับรอง REC ให้แก่ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนของไทยแล้วกว่า 5.58 ล้าน REC โดยในปี 2565 การออกใบรับรอง REC ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 106%

ในขณะเดียวกัน กฟผ. ยังเดินหน้าศึกษาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด อาทิ การใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและแอมโมเนียที่ไม่ปล่อยคาร์บอนระหว่างการเผาไหม้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture Utilization and Storage : CCUS) เช่น การนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตไฟฟ้ามาแปรรูปเป็นเมทานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรม โดยศึกษาใน 2 พื้นที่หลัก ได้แก่ โรงไฟฟ้าน้ำพอง จ.ขอนแก่น และ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

นอกจากนี้ กฟผ. ยังเตรียมยกระดับการจัดการใช้พลังงานของภาคประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โฉมใหม่ ที่แสดงค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเครื่องใช้ไฟฟ้า กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้

website 1972

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต กระทรวงพลังงาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.egat.co.th/home/ หรือโทร 0 2436 1416

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด